ดวงจันทร์ผู้ไกลบ้าน
Based on true story by บ้านพักฉุกเฉิน
สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ
“ดวงจันทร์” หรือ “จันทร์” หญิงสาวร่างเล็ก
ผิวคล้ำ ผมยาวหยักศก ผู้มีจุดเด่นตรงดวงตาสุกใสที่มาพร้อมกับรอยยิ้มอันสว่างสไว แม้จันทร์ยังไม่เอ่ยปากเล่าความเป็นมาหรือเป็นไปของเธอแต่ด้วยขนาดของหน้าท้องที่นูนเด่นออกมาก็ไม่ยากเลยที่จะทำให้เรารู้ว่าในท้องของจันทร์กำลังมีชีวิตใหม่ที่ก่อกำเนิดขึ้นมาและอีกไม่นานก็จะได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้
จันทร์ คือ หญิงสาวชาวกัมพูชา ที่มีอายุล่วงเข้าสู่วัยเบญจเพศ
และเป็นระยะเวลากว่า 3 ปีแล้ว ที่จันทร์ได้มาใช้ชีวิตอยู่ต่างบ้านต่างเมืองจนทำให้จันทร์สามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
จันทร์เล่าถึงครอบครัวของเธอที่กัมพูชา
ว่า เธอเป็นลูกคนโตในจำนวนบรรดาพี่น้องทั้งหมดสี่คน จันทร์เรียนจบชั้น5
ซึ่งหากเทียบกับระบบการศึกษาของไทยก็ไม่ทราบได้ว่าจันทร์เรียนจบในระดับใด พ่อของจันทร์เป็นทหารชาวกัมพูชา
ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว ส่วนแม่เป็นชาวเวียดนาม
หลังจากพ่อเสียชีวิตแม่ไม่ได้แต่งงานใหม่ และไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร แม่มีรายได้เลี้ยงชีพด้วยเงินเดือนทหารของพ่อ
ก่อนหน้าที่จันทร์จะมาประเทศไทย
เธอมักจะได้ฟัง
เพื่อนๆและคนในหมู่บ้านที่เขาเดินทางมาทำงานรับจ้างที่ประเทศไทยแล้วกลับไปเยี่ยมบ้าน
เล่าให้ฟังว่า มาทำงานที่ประเทศไทยมีงานให้ทำเยอะและได้เงินดี
ได้ฟังแล้วจันทร์ก็อยากจะมาลองทำงานดูบ้าง เมื่อจันทร์อายุได้ 22 ปี เธอจึงตัดสินใจตามเพื่อนๆ มาทำงานที่ประเทศไทย
โดยผ่านเข้ามาทางด่านปอยเปต เธอบอกว่าตอนเข้ามาก็ไม่ได้ทำเอกสารอะไรเลย ก็เข้ามาแบบผ่านมาเฉยๆ
งานแรกในประเทศไทยของจันทร์
คือการรับจ้างเป็นแม่บ้าน ทำงานบ้านทุกอย่างให้กับ นายจ้างที่อยู่แถวลาดพร้าว
นายจ้างให้ค่าตอบแทนแลกกับค่าเหนื่อยของเธอ 250 บาท ต่อวัน ช่วงแรกๆ
จันทร์ยังต้องปรับตัวทั้งเรื่องคิดถึงบ้านที่ทำให้จันทร์ต้องร้องไห้แทบทุกวันเพราะเธอไม่เคยจากบ้านไปไหนมาก่อนเลยในชีวิต และยังเรื่องภาษาที่จันทร์ฟังนายจ้างไม่รู้เรื่องทำให้นายจ้างหงุดหงิด
ผ่านไปประมาณครึ่งปี จันทร์พอจะปรับตัวได้อาการคิดถึงบ้านพอจะทุเลาลง
แต่ก็ยังฟังคำสั่งนายจ้างรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
แม้นายจ้างจะอดทนและใจดีกับเธอ แต่การที่สื่อสารกันไม่รู้เรื่องก็ทำให้นายจ้างหัวเสียอยู่บ่อยๆ
จนต้องไปรับลูกจ้างอีกคนซึ่งเป็นหญิงชาวกัมพูชาเช่นกันมาทำงาน
แต่ว่าลูกจ้างคนใหม่เขาฟังและพูดภาษาไทยได้ดีกว่าจันทร์มาก
ทำให้นายจ้างพอใจลูกจ้างคนใหม่มากกว่าจันทร์ แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุให้จันทร์ทะเลาะกับนายจ้างและลูกจ้างคนใหม่
ซึ่งลูกจ้างคนใหม่รีดผ้าของนายจ้างเสีย แต่ว่าเขามาโยนความผิดให้กับจันทร์
จันทร์ไม่ได้เป็นคนทำแต่ก็เถียงและแก้ตัวสู้เขาไม่ได้เพราะภาษาไทยของจันทร์ไม่แข็งแรง
จันทร์จึงถูกนายจ้างต่อว่าอยู่คนเดียว จันทร์เสียใจและน้อยใจมาก เธอจึงขอลาออกจากงาน หลังจากต้องออกจากบ้านนายจ้างจันทร์ได้ออกไปทำงานรับจ้างก่อสร้างกับเพื่อน
โดยเธอพักที่แคมป์คนงาน ไม่ว่าแคมป์คนงานย้ายไปที่ไหนเธอก็ย้ายไปด้วย
งานที่จันทร์ทำไม่ใช่งานแบกหาม เธอบอกว่าเธอมีหน้าที่ มัดเหล็ก นายจ้างจะให้ค่าแรง
250 บาท ต่อวัน และภายหลังก็ขึ้นเงินให้เป็น
300 บาทต่อวัน สภาพที่พักในแคมป์คนงานก็ไม่ได้สุขสบายนัก
ที่พักล้อมและมุงด้วยสังกะสี อากาศก็ร้อนแสนร้อน แต่เธอและคนงานอื่นๆก็ต้องอดทน
ทำงานได้ประมาณหนึ่งปี
จันทร์ก็ได้พบรักกับ “นายฌุน” ชายหนุ่มชาวกัมพูชา
วัย 26 ปี ซึ่งทำงานรับจ้างก่อสร้างเช่นเดียวกัน
ระหว่างที่คบหากันจันทร์ว่า เขาก็ดูเป็นคนดี
แต่พอตกลงมีอะไรกันและอยู่ด้วยกันเขาก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด เมื่อในกลางดึกคืนหนึ่งจันทร์ก็ตื่นมาพบว่าสามีของตนกำลังเสพยาบ้าอยู่กับเพื่อนๆ จันทร์บอกให้เขาเลิกเสพยา แต่เขาก็เลิกไม่ได้ เพื่อนเขาไปรับยามาขายต่อให้เขาสูบอยู่เรื่อยๆ
จันทร์โกรธมากเธอจึงไล่ให้นายฌุนกลับประเทศ แต่เขาก็ไม่ไปสักที
แม้จันทร์จะเบื่อและอยากเลิกกับนายฌุนแต่ด้วยการที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันการแยกทางกันก็ไม่ได้ง่ายนัก
ดังนั้นการไม่พลาดท้องจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของจันทร์ จันทร์บอกว่า
“หนูกินยาคุมตลอด
ยาคุมที่เป็นแผงๆ 28 เม็ด กินไม่เคยขาดไม่รู้ว่าท้องได้ไง
พอประจำเดือนไม่มาหายไปตั้งเดือน ก็เลยบอกกับแฟน เขาก็บอกให้ไปซื้อที่ตรวจมาตรวจก็
ผลก็มีลูก มันขึ้น 2 ขีด หนูจะเอาออกเพราะหนูไม่อยากมี ไม่พร้อม
แต่แฟนเขาดีใจเขาไม่ให้เอาออก ก็เลยท้องต่อ”
พอท้องโตขึ้นทำงานก็ไม่ได้
แฟนก็ยังเสพยาไม่เลิก จันทร์และนายฌุนก็มีปากเสียงทะเลาะกันเรื่อยๆ จนล่าสุด
จันทร์จึงไล่เขากลับกัมพูชา ซึ่งนายฌุน
ก็กลับกัมพูชาไปจริงๆโดยทอดทิ้งเธอที่ท้องโตไว้ที่ไซด์งานต่างจังหวัด
จันทร์เล่าให้ฟังอย่างน้อยอกน้อยใจในตัวนายฌุนว่า
“ตอนที่ยังไม่ท้องไล่เขาเท่าไหร่เขาก็ไม่ไป
พอท้องโตแล้วไล่ครั้งเดียวก็กลับไปเลย”
เมื่อนายฌุนทอดทิ้งกลับกัมพูชาไปแล้ว
จันทร์ซึ่งท้องก็ใหญ่ ทำงานอะไรก็ไม่ได้ จึงโทรหาเพื่อน ให้เพื่อนมารับที่หมอชิต พอเจอกับเพื่อนเขาก็เอากระเป๋าของจันทร์ไปถือซึ่งในกระเป๋ามีเงินก้อนสุดท้ายที่ติดตัวจันทร์อยู่จำนวน3,000บาท
เพื่อนบอกให้จันทร์นั่งรอ แล้วเพื่อนก็หายตัวไปและติดต่อไม่ได้อีกเลย
จันทร์ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงเดินไปหาแท็กซี่
คนขับรถแท็กซี่จึงช่วยเหลือด้วยการโทรไปปรึกษา จส.100
ทางนั้นจึงได้แนะนำและส่งให้จันทร์มาขอรับความช่วยเหลือที่บ้านพักฉุกเฉิน ด้วยปัญหาไม่มีที่พักอาศัยระหว่างที่ตั้งครรภ์
จันทร์บอกว่า
ได้ข่าวว่านายฌุนกลับมาประเทศไทยอีก
เพราะเขาและพี่สาวของเขาพยายามโทรติดต่อกับจันทร์อยากจะให้จันทร์กลับไปคืนดีกัน
แต่จันทร์ไม่อยากอยู่กับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ซึ่งหลังจากคลอดลูก จันทร์วางแผนไว้ว่า
“หนูจะอุ้มลูกกลับบ้าน
หนูไม่อยากกลับมาทำงานที่ประเทศไทยอีกแล้ว และหนูก็จะไม่กลับไปคืนดีกับเขา ทุกวันนี้เขากับพี่สาวของเขาก็โทรมาหาตลอดเขาอยากรับผิดชอบ
อยากมาหา เขาถามว่าอยู่ที่ไหน แต่หนูก็บอกว่าหนูอยู่ใกล้ๆเขมรนั่นแหล่ะ
เขาก็ร้องไห้บอกสงสารลูก แต่หนูบอกว่าลูกของหนูๆ เลี้ยงเองได้
แต่ถ้าเขาจะขอมาเป็นแค่พ่อของลูกหนูก็ไม่ว่าอะไร ตอนนี้ก็ขอแค่ให้คลอดลูกเร็วๆ จะได้กลับบ้าน
หนูคิดถึงบ้าน”
ปัจจุบันจันทร์ท้องได้
8 เดือนกว่าแล้ว
บ้านพักฉุกเฉินได้ช่วยเหลือคุ้มครองจันทร์ให้ได้มีที่พักอาศัย
ระหว่างรอคลอดและได้ส่งจันทร์ไปรับการตรวจและฝากครรภ์ที่สถานพยาบาลแห่งหนึ่ง
ทั้งยังได้ประสานกับหน่วยงานอื่นและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือในเรื่องการส่งตัวจันทร์และลูกกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยต่อไป
.............................................................................................................
หากผู้หญิงและเด็ก
ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี
สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน 501/1ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน
เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0 2929 2222 ตลอด 24 ชม.E-mail:admin@apsw-thailand.org
ในกรณีที่ท่านต้องการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และหาทุน สมาคมฯ โทร.0 2929 2301-7 ต่อ 109,113 E-mail:donate@apsw-thailand.org หรือสามารถดูข้อมูลรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์ สมาคม www.apsw-thailand.org
เรื่อง โดย
ผู้หญิงในบ้านพักฉุกเฉิน
ผู้เขียน/ตรวจอักษร/ถ่ายภาพ/สัมภาษณ์:จิตรา
นวลละออง