พ่อเลี้ยงใจโฉดกับแม่แท้ๆ ผู้ไม่ใยดี
Based on true story by บ้านพักฉุกเฉิน
สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ
เจ้าของเรื่อง: ผู้หญิงและเด็กที่พักพิงอยู่ในบ้านพักฉุกเฉิน
ผู้เขียน: ปองธรรม สุทธิสาคร ,Edit:จิตรา นวลละออง
“เดือนแรม” สาวน้อยอายุ 16 ปี หญิงสาวเจ้าเนื้อผิวสองสี ที่มีร่างกายไม่สมบูรณ์ ขาข้างหนึ่งดามเหล็กเอาไว้เนื่องจากเคยประสบอุบัติเหตุ
นอกจากนี้แม้เดือนแรมจะเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่
6 แต่เดือนแรมก็ไม่สามารถเขียนหนังสือ หรืออ่านหนังสือได้ เนื่องจากเดือนแรมมีความบกพรอ่งทางสติปัญญา
ดังนั้นบ้านพักฉุกเฉินจึงส่งเสริมเดือนแรมในด้านการพัฒนาทักษะด้านอาชีพ เพื่อที่จะได้มีวิชาชีพ
มีทักษะติดตัวไปประกอบอาชีพได้
เบื้องหลังชีวิตของเดือนแรมก่อนจะมาอยู่ที่บ้านพักฉุกเฉินนั้นเรียกได้ว่า
ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายเสียอีก ครอบครัวของเดือนแรมนั้นแตกแยก พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก
เธอจึงต้องอาศัยอยู่กับญาติข้างแม่ที่ต่างจังหวัด
ขณะที่ผู้เป็นแม่เดินทางเข้ามาทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นานทีปีหนจึงจะกลับบ้านมาหาเธอ แม้จะเรียนหนังสือไม่เก่งนักแต่เดือนแรมก็เป็นเด็กใฝ่ดี
ขยันขันแข็ง เอาการเอางาน เธอช่วยญาติทำงานทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะมารับตัวไปอยู่ด้วยกันที่เมืองหลวง
หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เดือนแรมพักอาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงในห้องเช่าเล็กๆ
สามีคนใหม่ของแม่ประกอบอาชีพพนักงานขับรถสิบล้อด้วยความที่กลัวจะเป็นภาระของแม่ เดือนแรมจึงไปสมัครงานเป็นเด็กเสิร์ฟอาหาร
และล้างจานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวในละแวกที่อยู่อาศัย ชีวิตของเด็กหญิงเดือนแรมน่าจะเป็นชีวิตที่เรียบง่ายไม่หวือหวา
เธอคงจะอาศัยอยู่กับแม่และทำงานเก็บเงินไปเรื่อยๆ หากว่าในวันหนึ่งจะไม่เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่กลายเป็นความทรงจำที่แสนเจ็บปวด และเลวร้ายในชีวิตของเธอ
...พ่อเลี้ยงกลับมาจากทำงานเข้ามาเจอเดือนแรมอยู่ที่ห้องเช่าคนเดียว
หลังจากนั้นก็ลงมือล่วงละเมิดและข่มขืนเธอ ขณะนั้นเดือนแรมยังเด็ก พ่อเลี้ยงข่มขู่บังคับเธอไม่ให้บอกใคร
หลังจากวันนั้นเธอก็อยู่ในห้องเช่าด้วยความกลัว หวาดระแวง
โดยเฉพาะเวลาที่แม่ไม่อยู่ …
พ่อเลี้ยงยังหาโอกาสกระทำกับเดือนแรมในทุกๆ
ครั้งที่เขามีโอกาส เธอถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลายเป็นเด็กหญิงที่ขี้กลัว
ไม่กล้าสู้หน้าใคร กลายเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองอย่างแรง เด็กสาววัยรุ่นกลายเป็นที่ระบายตัณหาให้กับพ่อเลี้ยงอยู่อย่างนั้นเป็นแรมปี
โดยที่แม่ของเธอไม่ได้รับรู้หรือระแคะระคาย สภาพจิตใจของเดือนแรมในขณะนั้นทั้งหวาดกลัว
สับสน เจ็บปวด
...มันเป็นเวรเป็นกรรมแต่หนใดกันหนอที่เด็กสาววัยแค่สิบกว่าปีอย่างเธอต้องมาพบเจอกับเรื่องบัดสีให้ชีวิตต้องมีตราบาปเช่นนี้...
คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในความคิดของเดือนแรมอยู่ตลอด จนบางครั้งเธออยากจะตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด ความเจ็บปวดของเด็กสาวหาได้หยุดลงเพียงเท่านี้
หัวใจของเดือนแรมแหลกยับอีกเป็นร้อยเป็นพันเท่าในวันที่แม่ของเธอได้รับรู้ความจริง
...วันหนึ่งแม่ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวแล้วกลับมาที่ห้องเห็นพ่อเลี้ยงกำลังกระทำกับเดือนแรม
แทนที่จะเข้าไปห้ามปรามหรือปกป้องลูกกลับกลายเป็นว่า แม่ของเธอกลับแอบดูพร้อมกับความรู้สึกหึงหวง
เคียดแค้น ... พอทุกอย่างจบลงแม่ก็เปิดประตูเข้ามาแล้วก็เปิดถุงก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ
เทราดหัวเดือนแรม แล้วก็ด่าเธอสาดเสียเทเสีย
นอกจากไม่ปกป้องลูกแล้วยังซ้ำเติมแถมเข้าข้างสามีใหม่อีก...
หัวใจของเดือนแรมทั้งหวาดกลัวและบอบช้ำจนสุดจะบรรยาย
เด็กสาววิ่งหนีผู้ให้กำเนิดอย่างไม่คิดชีวิต
ความร้อนจากน้ำก๋วยเตี๋ยวทำให้ตามเนื้อตัวของเธอแสบร้อน ขณะเดียวกันร่างกายก็สั่นเทิ้มไปด้วยความหวาดกลัวจนเสียขวัญเดือนแรมวิ่งหนีออกมาไกลและไร้จุดหมาย ก่อนที่จะมีพลเมืองดีพาตัวเธอมาส่งที่ บ้านพักฉุกเฉินสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ หลังจากเจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น บ้านพักฉุกเฉิน จึงได้พาเธอเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยง ในตอนแรกพ่อเลี้ยงได้ให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหาก่อนที่จะยอมรับสารภาพในที่สุด
ตั้งแต่ที่เดือนแรมเริ่มต้นเข้ามาใช้ชีวิตในบ้านพักฉุกเฉิน
และมีคดีความกับพ่อเลี้ยง แม่ของเธอไม่เคยแวะเวียนมาเยี่ยมเลยสักครั้ง จะมีเพียงโทรศัพท์มาหาเจ้าหน้าที่เพื่อขอตัวเด็กสาวกลับไปทำงาน
ยิ่งนานวันเข้าความรักของแม่ก็ยิ่งเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามสำหรับเดือนแรม และมีเพียงครั้งเดียวที่แม่มาเยี่ยมเดือนแรมเพื่อที่จะพาตัวเดือนแรมกลับไปเป็นแรงงาน
โดยที่...
...แม่พาแฟนใหม่ของตัวเองมาแนะนำกับเดือนแรม
บอกว่าเลิกกับพ่อเลี้ยงคนนั้นแล้ว ทำเหมือนกับว่าทุกอย่างดีขึ้นแล้ว ปลอดภัยแล้ว
แต่ไม่ได้คิดว่าเรื่องที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับลูกตัวเองบ้าง...
จากพฤติกรรมของแม่ที่ไม่สามารถดูแลปกป้องลูกของตนเองได้ และมีแนวโน้มว่าหากเดือนแรมกลับไปอาจต้องตกเป็นเหยื่อของพ่อเลี้ยงคนใหม่ได้อีก
บ้านพักฉุกเฉินจึงไม่สามารถที่จะส่งเดือนแรมคืนให้กับแม่ของเธอได้
เดือนแรมจึงยังคงอยู่ที่บ้านพักฉุกเฉินเพื่อเรียนฝึกอาชีพ
และตั้งหลักให้กับชีวิตที่จะเริ่มต้นใหม่ แม้ว่าชีวิตที่ผ่านมาจะต้องพบเจอกับปัญหาที่เกินกว่าเด็กหญิงคนหนึ่งจะพึงแบกรับ
หากแต่เดือนแรมก็ไม่เคยคิดหรือทำให้ชีวิตของตนเองต้องตกต่ำเลวร้ายลงกว่าเดิม
ทั้งที่บาดแผลในชีวิตของเธอล้วนแต่เป็นสิ่งที่คนอื่นหยิบยื่นให้ทั้งสิ้น แม้จะเป็นคนพูดน้อย
รวมทั้งมีอาการเหงาเศร้าอยู่บ้าง หากแต่เดือนแรมก็ยังคงมุ่งมั่นไฝ่ดี และทุกคนที่นี่ก็พร้อมจะเป็นกำลังใจให้เดือนแรม
.................................................................................................................
หากผู้หญิงและเด็ก ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น
ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี
สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน
501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง
กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0 2929 2222 ตลอด 24 ชม. อีเมลล์: knitnaree@hotmail.com และ
ในกรณีที่ท่านต้องการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และหาทุน โทร. 0 2929 2301-3 ต่อ 109,113 หรือ 0 2 929 2308
อีเมลล์: admin@apsw-thailand.org
Facebook: สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯบ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง
หรือ สามารถดูข้อมูลรายละเอียดผ่านทางเว็บไซด์สมาคม www.apsw-thailand.org