เหยื่อ
Based on true story by บ้านพักฉุกเฉิน สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ
รู้ไหมว่า มีผู้หญิงและเด็ก ไม่น้อยกว่า 7
คนถูกทำร้ายร่างกายในทุก ๆ วัน นั่นหมายถึงทุก ๆ 3 ชั่วโมงจะมีเด็กและผู้หญิงตกเป็นเหยื่ออย่างน้อย
1 คน ข้อมูลจาก องค์การสหประชาชาติระบุว่า ประเทศไทยติด 1 ใน 10 ของโลก
ผู้ชายใช้ความรุนแรงต่อเด็กและผู้หญิง โดย 1 ใน 3 เป็นความรุนแรงทางด้านจิตใจ
ซึ่งกลุ่มที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวและร้องขอความช่วยเหลือนั้นมีเพียงร้อยละ 17
จากทั้งหมดและ รายงานจากศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าในปี 2562 ที่ผ่านมา เกิดความรุนแรงในครอบครัว 1,376 เหตุการณ์มีการดำเนินคดีเพียง 354 คดี
เฉลี่ยแล้วมีการดำเนินคดีไม่ถึงครึ่งของจำนวนเหตุการณ์จริงทั้งหมดโดย 53%
ถูกกระทำความรุนแรงโดยคู่รักหรือคนในครอบครัว
ผู้กระทำความรุนแรง ‘มากกว่าครึ่ง’ เป็นคนคุ้นเคยหรือบุคคลในครอบครัว
โดยสถานที่เกิดเหตุเกิดมักจะเป็นในที่พักของผู้ถูกกระทำ
ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเภทข่าวข่มขืน และมีหลายกรณีที่อาศัยความไว้ใจเชื่อใจในการล่อลวงเหยื่อมาเพื่อกระทำการดังกล่าว เช่นเรื่องราวของ "บิว" ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้
บิว เด็กหญิงที่แม่ทอดทิ้งให้เป็นลูกของคนอื่นตั้งแต่แรกคลอดและไปมีสามีใหม่
ส่วนพ่อแท้ ๆ เสียชีวิตตั้งแต่บิวยังเป็นทารก บิวได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวลุงกับป้าโดยไม่เคยรู้เลยว่าพวกเขาไม่ใช่พ่อแม่แท้
ๆ ของตน แม้บางครั้งเมื่อเขาโมโหก็จะถูกด่าว่าไม่ใช่ลูกก็ไม่เคยเชื่อ
จนกระทั่งช่วงที่เรียนอยู่ชั้นป.2 บิวถูกคนที่ตนเองคิดว่าเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดข่มขืน
และข่มขู่ไม่ให้บอกใคร จนวันหนึ่งบิวก็มีเลือดเป็นลิ่ม ๆ ไหลออกมาจากอวัยวะเพศ ลุงบอกกับป้าว่าบิวหกล้มในห้องน้ำหลังจากนั้นก็ร่วมกันแก้ปัญหาด้วยการให้บิวใส่ผ้าอนามัย แต่เลือดก็ยังไม่หยุดไหล
เลยจำเป็นต้องส่งไปโรงพยาบาลเมื่อได้เข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญผลที่ออกมาไม่ได้สอดคล้องกับเรื่องโกหกที่ลุงแต่งจึงมีการสืบความจนได้ความจริงว่าลุงข่มขืนหลาน
จึงได้ดำเนินคดีกับลุง ระหว่างดำเนินคดีบิวอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ของรัฐแห่งหนึ่งซึ่งที่นี่ได้พยายามติดตามหาแม่ที่แท้จริงของบิวจนพบ บิวจึงได้รู้ความจริงว่าเธอไม่ใช่ลูกของลุงกับป้า
บิวอยู่ที่สถานสงเคราะห์แห่งนั้น 1 เดือนแม่จึงได้รับตัวบิวไปฝากไว้กับน้า
และแม่ก็พาพี่ ๆ อีก 3 คน เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ จนกระทั่งบิวอายุย่าง 15 ปี แม่จึงพาพี่กลับมาอยู่กับน้าอีก
และการมาของแม่และพี่ในครั้งนี้ก็ทำให้บิวต้องตกเป็นเหยื่ออีกครั้งหนึ่ง... หญิงชายวัยกำลังหนุ่มกำลังสาวที่แม้จะเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันแต่ไม่ได้มีความผูกพันฉันท์พี่น้องเลย
ต่างคนต่างคล้ายคนแปลกหน้าต่อกันมาอยู่ร่วมกัน บ้านที่พักอาศัยก็ไม่ได้มีการกั้นห้องเป็นสัดส่วน
จึงเป็นช่องทางให้พี่ชายคนที่ 3 ซึ่งอายุ 20 ปี ได้พยายามข่มขืนบิว
ครั้งแรกไม่สำเร็จแต่บิวไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ใครทราบเพราะเด็กหญิงไม่รู้จะบอกใครถ้าพูดไปแล้วใครจะเชื่อ...
เธอก็เหมือนคนที่อยู่ตัวคนเดียวในโลก... บิวจึงเก็บความหวาดกลัวไว้ภายในจิตใจเพียงคนเดียวเมื่อมีความพยายามในครั้งแรกจึงมีความพยายามในครั้งต่อมาจนสำเร็จ...บิวจึงตกเป็นเหยื่อครั้งแล้วครั้งเล่า...ความเงียบและการเก็บเรื่องเลวร้ายนี้ไว้คนเดียวคือทางออกที่เด็กผู้หญิงวัย
15 ปี จำต้องเลือกให้กับตัวเองเนื่องจากมองไม่เห็นทางเลือกอื่นอีกแล้ว
ต่อมาแม่ได้ย้ายเข้ามาทำงานรับจ้างในกรุงเทพฯ
อีกครั้ง และบิวได้ตามมาด้วย บิวเริ่มมีความหวังว่าชีวิตของตนเองน่าจะหลุดพ้นเสียทีแต่พี่ชายก็ได้ตามมากรุงเทพฯเพื่อมาขอกับแม่ให้เขาได้ใช้ชีวิตคู่อยู่กินกับบิวแบบสามีภรรยาซึ่งแม่กลับยินยอม
บิวจึงต้องกล้ำกลืนอยู่กับพี่ชายในรูปแบบความสัมพันธ์ที่พวกเขาต้องการ
จะให้บิวทำอย่างไรก็บิวเพิ่งอายุ 15 ปี งานก็ไม่มีทำ บ้านก็ไม่มี ความรู้ก็ไม่มี บัตรประชาชนแม่ก็ไม่พาไปทำแม่บอกว่าไม่สำคัญ
บิวจึงต้องตกอยู่ในสภาพ ‘เหยื่อ’
ของคนในครอบครัวอีกครั้ง... และเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อบิวตั้งท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นเด็กปัญญาอ่อน
(Down Syndrome) เพราะเป็นลูกของชายหญิงที่เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
และหลังจากคลอดลูกคนแรกไม่นานก็ท้องลูกคนที่สองด้วยความหวาดหวั่นว่าจะเหมือนคนแรกหรือไม่แต่ก็ยังพอมีโชคดีอยู่บ้างที่ลูกคนที่สองมีสุขภาพปกติและแข็งแรงดี
ชีวิตครอบครัวของบิวในช่วงแรก ๆ ถ้าทำใจลืมเรื่องที่ถูกพี่ชายข่มขืนจนต้องตกมาเป็นภรรยาของเขา
ลืม ๆ ไปว่าคือพี่น้องท้องเดียวกันก็ปกติสุขดีจะมีทะเลาะกันบ้างในเรื่องเงิน ๆ ทอง
ๆ ที่ไม่ค่อยจะพอใช้แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นทุบตีทำร้ายกัน แต่หลังจากคลอดลูกคนที่สอง
ได้ ปีกว่า ๆ สามีก็ติดยาบ้าอย่างหนัก จนบิวทนไม่ไหวจึงหอบลูกทั้งสองไปอาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง
ชีวิตช่วงนี้จึงเริ่มเข้าที่เข้าทาง บิวและพ่อเลี้ยงไปทำงานรับจ้าง
แม่เลี้ยงลูกให้... แต่ความสุขมักผ่านไปไวเสมอ... เมื่อสามีหรืออีกนัยหนึ่งก็คือพี่ชายของบิวมาตามกลับบ้านแต่บิวไม่ยินยอม
เขาจึงเอาน้ำกรดที่ได้เตรียมมาสาดและราดจากหัวลงไปถึงลำตัวของบิว แต่บิวยังพอมีสติดีเธอคว้าถังน้ำที่อยู่ใกล้ตัวมาราดตัวเองและร้องเรียกหาคนช่วย...
แม่ส่งบิวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง บิวมีอาการทรมานปวดแสบปวดร้อนไปตามศีรษะ
ใบหน้า ลำตัว ขาข้างซ้าย และแขนทั้งสองข้าง แผลเริ่มดำคล้ำไหม้และพุพองมากขึ้น บิวต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา
1 เดือน หลังจากนั้นโรงพยาบาลได้ส่งบิวเพื่อมาพักฟื้นที่บ้านพักฉุกเฉินส่วนพี่ชายได้หนีหายไป
ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวได้
บาดแผลทางกายและบาดแผลทางใจของบิวรวมทั้งความหวาดกลัวว่าตนเองจะต้องอัปลักษณ์เสียโฉมด้วยแผลเป็นที่นูนออกมาหลายแห่งบนร่างกาย
รวมทั้งรอยด่างบนใบหน้า ส่งผลให้บิวมีสภาพอารมณ์แปรปรวนไม่อยากจะพูดคุยกับใคร วัน ๆ
เอาแต่ร้องไห้และทรมานอยู่คนเดียว บิวต้องทานยาคลายเศร้าอยู่เป็นประจำ ...ชีวิตของบิวต้องตกเป็นเหยื่อของคนในครอบครัวอยู่เรื่อยมา...
บิวบอกกับเราว่าเธอพยายามหาทางออกให้กับตัวเอง ด้วยการอ่านหนังสือธรรมะ
และเรียนฝึกอาชีพหลักสูตร เย็บผ้า เผื่อว่าในสักวันข้างหน้าเธอจะได้มีอาชีพที่พอจะหาเลี้ยงตนเองได้โดยที่ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของใครอีกต่อไป
………………………………………………………………………………………………………
หากผู้หญิงและเด็ก
ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี
สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่
สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน 501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ
10210 โทรศัพท์ 0 2929 2222 ตลอด 24 ชม.
ในกรณีที่ท่านต้องการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และหาทุน โทร. 0 2929 2301-7 ต่อ 109,113 E-mail: admin@apsw-thailand.org
เว็บไซต์สมาคม www.apsw-thailand.org