เหยื่อ
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุตัวเลขว่ามากกว่า 20 ปีมาแล้วที่ผู้หญิง 1 คน ในทุก ๆ 3 คน จะต้องตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต แม้แต่กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหภาพยุโรป ก็พบว่าผู้หญิงกว่าร้อยละ 33 มีประสบการณ์ถูกกระทำรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศ ประเทศที่มีประชาธิปไตยและการเคารพสิทธิเสรีภาพซึ่งกันและกันอย่างฝรั่งเศสก็มีการประเมินว่าในแต่ละปีมีผู้หญิงตกเป็นเหยื่อคดีข่มขืน และพยายามข่มขืนถึงประมาณ 86,000 ราย แต่มีเพียงร้อยละ 13 เท่านั้นที่ตัดสินใจแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศ โดยร้อยละ 38 ของผู้หญิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เคยตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศ โดยค่าเฉลี่ยรวมทั้งโลกอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 และที่เลวร้ายไปกว่านั้นยังพบว่าพวกเธอเหล่านั้นมักถูกกระทำจาก สามี คนใกล้ชิด หรือคนในครอบครัว รู้อย่างนี้แล้วผู้หญิงเราจะสามารถไว้ใจใครได้อีก...แทบทุกครั้งที่มีความรุนแรงเกิดขึ้นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมักจะเป็น ผู้หญิงและเด็ก และบ่อยครั้งที่เป็นเด็กผู้หญิง อย่างเช่นเรื่องราวของ "บิว"ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้
บิว เด็กหญิงที่ไม่เคยมีครอบครัวเป็นของตัวเอง พ่อตายตั้งแต่บิวยังเล็กๆ ส่วนแม่นั้นไม่เคยเลี้ยงลูกทั้งสี่คนด้วยตนเองเลย ดังนั้นเมื่อคลอดบิวเป็นลูกคนสุดท้องแม่จึงยกบิวให้เป็นลูกของลุงกับป้า แล้วแม่ก็เป็นอิสระบินปร๋อไปมีครอบครัวใหม่ บิวไม่เคยรู้เลยว่าลุงกับป้าไม่ใช่พ่อแม่ของบิวแม้บางครั้งบิวจะถูกเขาด่าว่าเวลาโมโหว่าไม่ใช่ลูกของพวกเขาบิวก็ไม่เคยเชื่อ จนกระทั่งช่วงที่บิวเรียนอยู่ชั้นป.2 บิวถูกลุงที่บิวคิดว่าเขาเป็นพ่อแท้ๆของตนเองข่มขืน และข่มขู่ไม่ให้บอกใคร เด็กน้อยวัย 8 ขวบ ตกนรกอยู่เป็นเวลาร่วมสองเดือน แล้วก็คงจะจริงที่ว่าไม่มีความลับในโลกเพราะวันหนึ่งบิวก็มีเลือดไหลออกมาจากอวัยวะเพศแบบเป็นลิ่มๆ ลุงยังมีหน้าบอกกับป้าอีกว่าบิวประสบอุบัติเหตุหกล้มในห้องน้ำซึ่งก็น่าแปลกที่ป้าก็ยังเชื่อ หลังจากนั้นลุงกับป้าก็แก้ปัญหากับอาการบาดเจ็บของบิวด้วยการไปซื้อผ้าอนามัยให้บิวใส่ เป็นเวลาหนึ่งวันเต็มๆเลือดก็ยังไม่หยุดไหล ลุงกับป้าจึงจำเป็นที่จะต้องส่งบิวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อบิวได้เข้ารับการตรวจร่างกายจากแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญผลที่ออกมาไม่ได้สอดคล้องกับเรื่องโกหกที่ลุงแต่งขึ้น เลยต่างพากันซักถามบิวจนได้ความจริงว่าลุงได้กระทำความรุนแรงอะไรกับบิวบ้าง จึงแจ้งให้ตำรวจมาจับลุงใจโหดไปดำเนินคดี
หลังจากเหตุร้ายได้ผ่านไปบิวได้ไปอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ของรัฐแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นี่บิวจึงได้พบกับแม่ที่แท้จริงเพราะสถานสงเคราะห์ได้พยายามติดตามหาแม่ที่แท้จริงของบิวจนพบ บิวจึงได้รู้ความจริงว่าเธอไม่ใช่ลูกของลุงกับป้า บิวอยู่ที่สถานสงเคราะห์แห่งนั้นเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วแม่จึงได้มารับตัวบิวไปฝากไว้กับน้า ที่บ้านน้าก็มีพี่สาวคนที่สองและพี่ชายคนที่สามของบิวพักอาศัยอยู่ด้วยพอบิวเรียนชั้นป.4 แม่ก็พาพี่ๆเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ จนกระทั่งบิวอายุย่าง15 ปี แม่จึงพาพี่ๆกลับมาอยู่กับน้าอีก และการมาของแม่และพี่ในครั้งนี้ก็ทำให้บิวต้องตกเป็นเหยื่ออีกครั้งหนึ่ง... ด้วยสภาพบ้านที่แทบทุกคนต้องนอนรวมกันประกอบกับเด็กหญิงชายวัยกำลังหนุ่มกำลังสาวที่แม้จะเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันแต่ไม่ได้มีความผูกพันฉันท์พี่น้องเลย ต่างคนต่างคล้ายคนแปลกหน้าต่อกัน... และด้วยแม่ที่นอนอยู่ด้วยก็มักจะกินเหล้าเมาหลับไม่รู้เรื่องแทบทุกคืน... จึงเป็นช่องทางให้พี่ชายคนที่สามซึ่งอายุ 20 ปี ได้พยายามข่มขืนบิว ครั้งแรกไม่สำเร็จแต่บิวไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ใครทราบเพราะเด็กหญิงไม่รู้จะบอกใครถ้าพูดไปแล้วใครจะเชื่อ... เธอก็เหมือนคนที่อยู่ตัวคนเดียวในโลก... บิวจึงเก็บความหวาดกลัวไว้ภายในจิตใจเพียงคนเดียว... เมื่อมีความพยายามในครั้งแรกจึงมีความพยายามในครั้งต่อมา... พี่ชายบังคับข่มขืนบิวจนสำเร็จ...ซึ่งบิวก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากตกเป็นเหยื่อครั้งแล้วครั้งเล่า...ความเงียบและการเก็บเรื่องเลวร้ายนี้ไว้คนเดียวคือทางออกที่เด็กผู้หญิงวัย 15 ปีจำต้องเลือกให้กับตัวเองเนื่องจากมองไม่เห็นทางเลือกอื่นอีกแล้ว
เหมือนชีวิตของบิวจะดีขึ้นเมื่อแม่ได้ย้ายเข้ามาทำงานรับจ้างในกรุงเทพฯ อีกครั้ง และบิวได้ติดสอยห้อยตามมาด้วย... แต่พี่ชายก็ไม่ปล่อยให้บิวเป็นอิสระได้นานเขาได้ตามมาหาบิวที่กรุงเทพฯเพื่อที่จะมาขอกับแม่ให้เขาได้ใช้ชีวิตคู่อยู่กินกับบิวแบบสามีภรรยา แทบไม่น่าเชื่อว่าแม่ยินยอมเห็นดีด้วยกับพี่ชายบิวจึงต้องจำใจอยู่กับพี่ชาย... จะให้บิวทำ อย่างไรก็บิวเพิ่งอายุ 15 ปี งานก็ไม่มีทำ บ้านก็ไม่มี บัตรประชาชนแม่ก็ไม่พาไปทำแม่บอกว่าไม่สำคัญอะไรจะพาไปทำเมื่อไรก็ได้... บิวจึงต้องตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีกครั้งหนึ่ง... ความซวยของบิวยังไม่จบเมื่อ บิวตั้งท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นเด็กปัญญาอ่อน (Down Syndrome) เนื่องจากเด็กเป็นลูกของชายหญิงที่เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน แต่ก็ยังพอมีโชคดีอยู่บ้างที่ลูกคนที่สองมีสุขภาพปกติและแข็งแรงดี ชีวิตครอบครัวของบิวในช่วงแรกๆถ้าทำใจลืมๆเรื่องที่ถูกพี่ชายข่มขืนจนต้องตกมาเป็นภรรยาของเขาแล้วชีวิตของบิวกับสามีก็ปกติสุขดีจะมีทะเลาะกันบ้างในเรื่องเงินๆทองๆ ที่ไม่ค่อยจะพอใช้แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นทุบตีทำร้ายกัน แต่พอช่วงปลายปี 2553 สามีของบิวติดยาบ้าอย่างหนักจนบิวทนไม่ไหวจึงหอบลูกทั้งสองไปอาศัยอยู่กับแม่และพ่อ ชีวิตช่วงนี้ของบิวเริ่มเข้าที่เข้าทาง บิวและพ่อเลี้ยงไปทำงานรับจ้าง แม่เลี้ยงลูกให้...แต่ความสุขมักอยู่กับบิวได้ไม่นานบิวต้องตกเป็นเหยื่ออีกครั้ง
ช่วงเดือนมีนาคม 2554 สามีหรืออีกนัยหนึ่งก็คือพี่ชายของบิวมาตามบิวกลับบ้าน แต่บิวไม่ไป เขาจึงเอาน้ำกรดที่ได้เตรียมมาสาดและราดจากหัวลงไปถึงลำตัวของบิวแต่บิวยังพอมีสติดีเธอคว้าถังน้ำที่อยู่ใกล้ตัวมาราดตัวเองและร้องเรียกหาคนช่วย แม่ได้ส่งบิวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ส่วนพี่ชายได้หนีหายไปตำรวจยังไม่สามารถจับตัวได้ บิวมีอาการทรมานปวดแสบปวดร้อนไปตามศีรษะ ใบหน้า ลำตัว ขาข้างซ้าย และแขนทั้งสองข้าง แผลเริ่มดำคล้ำไหม้และเฟอะมากขึ้นบิวต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งเดือนหลังจากนั้นโรงพยาบาลได้ส่งบิวเพื่อมาพักฟื้นที่บ้านพักฉุกเฉิน บาดแผลทางกายและบาดแผลทางใจของบิวรวมทั้งความหวาดกลัวว่าตนเองจะต้องอัปลักษณ์ด้วยแผลเป็นที่นูนออกมาหลายแห่งบนร่างกาย รวมทั้งรอยด่างบนใบหน้า ส่งผลให้บิวไม่อยากจะพูดคุยกับใคร วันๆเอาแต่ร้องไห้ และทรมานอยู่คนเดียว...บิวต้องทานยาคลายเศร้าอยู่เป็นประจำ... หลายคนในครอบครัวของบิวต่างกระทำกับบิวเหมือนเธอเป็นผักปลาหรือสิ่งของ... ชีวิตของบิวต้องตกเป็นเหยื่ออยู่เรื่อยมา... ปัจจุบันบิวอายุ 23 ปี อารมณ์ของบิวไม่ค่อยคงที่เท่าใดนักอาจเนื่องมาจากประสบการณ์ชีวิตอันเว้าแหว่งขาดวิ่นของเธอ บิวบอกกับเราว่าเธอพยายามหาทางออกให้กับตัวเอง ด้วยการอ่านหนังสือธรรมะ และเรียนฝึกอาชีพหลักสูตร เย็บผ้า... เผื่อว่าในวันข้างหน้าเธอจะได้มีอาชีพที่พอจะหาเลี้ยงตนเองได้โดยที่ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของใครอีกต่อไป
...................................................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น