บาดแผลที่มองไม่เห็น
Based on true story by บ้านพักฉุกเฉิน สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ
เจ้าของเรื่อง: ผู้หญิงและเด็กที่พักพิงอยู่ในบ้านพักฉุกเฉิน ผู้เขียน: จิตรา นวลละออง
สำหรับประเทศไทยนั้นยังมีผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากอีกมากมาย เช่น ครอบครัวของ “สวย” ที่พ่อแม่ขาดความรู้ และการวางแผนครอบครัว ทั้งยังมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการคุมกำเนิด จึงส่งผลให้มีลูกมาก และยากจน ทำให้ครอบครัวที่ยากจนอยู่แล้วต้องยากจนมากขึ้นไปอีก เลยไม่สามารถส่งลูกเรียนหนังสือได้ ลูกที่เกิดมาเมื่อพอรู้ความก็ต้องทำงานเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว ปัญหาที่ตามมา คือ ปัญหาการใช้แรงงานเด็ก ปัญหาการทารุณกรรม ความไร้เมตตาธรรม ฯลฯ
“สวย” เด็กผู้หญิงซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของครอบครัวอันแสนยากจนครอบครัวหนึ่ง พ่อ-แม่ของสวยมีลูกทั้งหมดรวม 6 คน สวยจึงมีน้องเล็ก ๆ อีก 5 คนให้ต้องดูแล แม่เป็นแรงงานสำคัญของครอบครัวเพราะพ่อแขนข้างขวาอ่อนแรงทำงานหนักไม่ได้เพราะเคยตกต้นไม้ และพ่อมักหาเรื่องทะเลาะกับแม่ด้วยเหตุเมาและหึงหวง สวยเรียนจบป.6 ซึ่งก็มากพอสำหรับครอบครัวที่ปากกัดตีนถีบรับจ้างทำงานไปวัน ๆ และไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง แถมยังมีลูกดกยั้วเยี้ยให้ต้องเลี้ยงดู
หลังจากเรียนจบ สวยได้ไปรับจ้างทำงานก่อสร้างแต่ก็ถูกโกงค่าแรง จนต้องออกจากงาน ไม่นานก็มีคนในหมู่บ้านซึ่งเป็นนายหน้าหาเด็กไปทำงานบ้านให้กับคนรวย มาพูดกับแม่เพื่อชักชวนให้ส่งลูกไปทำงาน สวยจึงได้เข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 15 ปี นายจ้างของสวยเป็นครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนที่มีฐานะร่ำรวย คุณผู้หญิงของบ้านเป็นคนเดียวที่อยู่บ้านทุกวัน คุณผู้ชายไปทำงาน ลูก ๆ ทั้งสี่คนของคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายไปเรียนที่มหาวิทยาลัย
เวลางานของสวยเริ่มตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง สวยต้องทำงานบ้านทุกอย่างในบ้านหลังใหญ่เพียงคนเดียว ต้องล้างรถทุกคัน ต้องซักผ้าด้วยมือแม้จะมีเครื่องซักผ้าแต่คุณผู้หญิงไม่ให้ใช้ ต้องจัดเตรียมอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมายตามแต่คุณผู้หญิงจะสั่ง สวยทำงานหนักแต่ไม่เคยได้รับเงินเดือน เพราะคุณผู้หญิงบอกว่าจะส่งให้แม่เอง สวยไม่มีวันหยุด วันไหนงานน้อยจะได้เข้านอนตอนเที่ยงคืน อาหารของสวยในแต่ละมื้อถ้าไม่ใช่ น้ำเปล่า ก็เป็นข้าวที่หลงเหลือมาจากวันไหน ๆ ก็ไม่รู้ซึ่งถูกแช่ไว้ในตู้เย็น บางวันดีหน่อยก็จะมีพริก เป็นกับข้าว
แม้สวยจะลำบากต้องกินข้าวเคล้าน้ำตา แต่สวยก็บอกตัวเองให้อดทนเมื่อนึกถึงใบหน้าของคนที่รอคอยอยู่ที่บ้าน นานวันเข้าสภาพร่างกายของเด็กสวยที่ไม่ได้รับสารอาหารก็ทรุดโทรมลง แขนขาลีบเล็ก ผอมโซ ดำคล้ำ คล้ายไม้เสียบผีเข้าไปทุกวัน เมื่อสุขภาพแย่ลง งานของสวยก็ไม่ค่อยเรียบร้อย จึงมักถูกลงโทษด้วยการด่าทอและทุบตี ถ้าคุณผู้หญิงโกรธมาก ๆ ก็จะใช้เข็มขัดหนัง หัวเหล็กฟาดมาตามตัวและศีรษะของสวย หรือไม่ก็เอาเก้าอี้ไม้สักฟาดเข้าที่กลางหลัง หรือไม่ก็ให้สวยตบปากตัวเองจนปากแตก บางครั้งก็บังคับให้เอาหัวโขกพื้น ลูก ๆ ของคุณผู้หญิงก็เคยห้ามปรามแต่ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนต่อมาดูเหมือนเรื่องเด็กสวยถูกทำร้ายกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาของครอบครัวนี้…
แล้ววันที่สวยต้องเจ็บปวดที่สุดในชีวิตก็มาถึง วันนั้นสวยเป็นไข้ แต่ก็ต้องทำงานหนักอย่างเช่นเคย เสียงคุณผู้หญิงสั่งงานเข้าหูบ้างไม่เข้าบ้าง ซึ่งขัดใจคุณผู้หญิงเป็นอย่างมาก หญิงวัยกลางคนที่หน้าตาและการแต่งกายดูดีส่งเสียงโหวกเหวกด่าทอเด็กลูกจ้างที่นั่งซักผ้าอยู่ที่ลานซักล้างชั้น 2 ของบ้านหลังใหญ่ สิ้นเสียงนั้นก็ตามมาด้วยเสียง "ปึ๊ก" ท่อแป๊ปเหล็กรูปทรงกลมที่ใช้เป็นราวตากผ้าไม่ทราบขนาดฟาดเข้ากลางหลังของเด็กน้อยจนเด็กหล่นจากเก้าอี้ ความเจ็บแล่นเข้าสู่กลางลำตัว จนต้องยกมือไหว้ร้องขอความเมตตา "คุณผู้หญิงอย่าทำหนู หนูกลัวแล้ว" คุณผู้หญิงหยุดชะงัก เด็กน้อยมีความหวังว่าคุณผู้หญิงคงสงสารตน แต่ฉับพลันคุณผู้หญิงกลับก้มลงคว้าเก้าอี้ไม้ตัวเล็กฟาดตามลงมา เด็กน้อยก้มศีรษะเพื่อป้องกันภัยตามสัญชาติญาณการเอาตัวรอด "โพล้ะ" เสียงเก้าอี้กระทบกับด้านหลังศีรษะของสวย สวยรู้สึกตุบ ๆ ที่ศีรษะ จากชาหนึบกลายเป็นเจ็บปวด จึงค่อย ๆ ยกมือขึ้นแตะคลำศีรษะของตนเอง มีน้ำข้นๆ เหนียวเหนอะ สีแดงเข้ม และมีกลิ่นคาวติดมือมา แม้สวยจะได้รับบาดเจ็บแต่สวยยังต้องกัดฟันทำงานต่อไปจนดึก ความทรมานจากบาดแผลที่ไม่ได้รับการเยียวยาเลยได้ส่งผลให้สวยตัวร้อนราวกับไฟ ลมหายใจเข้าออกผ่าวร้อนจนแสบจมูก ลำคอแห้งผาก ปากแตกเป็นขุยจนเลือดออกซิบ ๆ
เช้ามืดคุณผู้หญิงมาปลุกสวย และสั่งให้เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า แล้วลากตัวสวยมาโทรศัพท์หาป้าเพื่อฝากข้อความไปยังแม่โดยบังคับให้พูดตามที่คุณผู้หญิงสั่งเท่านั้น แต่สวยกลับนิ่งเฉย จึงเป็นการกระตุ้นอารมณ์โกรธของคุณผู้หญิงอีกครั้ง เธอยกเท้าขึ้นมาตบหน้าสวยหลายที จากนั้นก็ลากสวยออกจากบ้านขึ้นรถ และพาไปส่งที่หัวลำโพงเพื่อส่งขึ้นรถไฟกลับบ้าน นั่นคือสิ่งที่ทำให้สวยคิดว่าคงไม่ต้องพบเจอกับคุณผู้หญิงอีกแล้ว แต่โลกมันกลม และใครทำอะไรไว้ย่อมได้รับผลจากการกระทำนั้นเสมอ…
หลังจากสวยหลับๆ ตื่น ๆ ด้วยพิษไข้อยู่บนรถไฟเพียงลำพังจนสถานีปลายทาง สวยลงจากรถไฟหาเศษเหรียญหยอดตู้โทรศัพท์ไปหาป้าเพื่อให้ช่วยไปบอกแม่ จากนั้นสวยแข็งใจแบกสังขารของตนเองไปนั่งรถสองแถวที่ป้าบอกเพื่อไปเจอแม่กับป้า ที่หน้าหมู่บ้าน
แม่... หญิงชาวบ้านผู้ยากจนน้ำตาคลอเมื่อเห็นสภาพของลูกสาวคนโตที่จากบ้านไปนาน มืออันหยาบกร้านของแม่เอื้อมมาจับตัวลูกสาวคนโตดึงตัวเข้าไปสวมกอด เหมือนเส้นความอดทนของสวยได้ขาดสะบั้นลง สวยปล่อยโฮออกมาอย่างสุดชีวิต เสียงร้องไห้ของสวยกรีดลึกลงไปกลางใจกลางหัวอกคนเป็นแม่ จนไม่สามารถบอกได้ว่าจากเหตุการณ์นี้ใครเจ็บปวดกว่ากัน…
ด้วยความช่วยเหลือของป้า สวยถูกนำตัวไปรับการรักษายังโรงพยาบาลประจำจังหวัด และมีองค์กรเอกชนเข้ามาช่วยเหลือ หลังจากนั้นสวยได้ถูกพากลับมาสู่กรุงเทพฯ อีกครั้ง เพื่อรับการบำบัด เยียวยา ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงด้านการดำเนินคดี ณ บ้านพักฉุกเฉิน ดอนเมือง ที่เปรียบเหมือนบ้านหลังใหม่ของสวย เธอได้เติบโต ได้เรียนหนังสือ ได้มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อเธอ
เมื่อมีการขึ้นศาล สวยก็ยังต้องโคจรมาพบกับคุณผู้หญิงอีกครั้งที่ศาล แต่ สวยไม่ต้องสู้เพียงลำพังอีกแล้ว ข้าง ๆ ตัวสวยมีหลาย ๆ คนที่รักเธอ ร่วมยืนเคียงข้างและสู้ไปด้วยกัน หลายปีคดีจึงสิ้นสุด ทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกาได้ตัดสินไปในทิศทางเดียวกันว่า “จำเลยกระทำผิดจริง” จึงเป็นอันสิ้นสุดกระบวนการคดีประวัติศาสตร์ "ใช้แรงงานเด็กเยี่ยงทาส" เนื่องจากเป็นคดีแรกของไทย ที่มีคำพิพากษาในความผิดฐานการเอาเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีลงเป็นทาส ตามมาตรา 312 ทวิ วรรค 2 ประกอบมาตรา 312 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
สวยในปัจจุบันช่างแตกต่างจากวันวานนัก ภาพวันวานเธอเคยนั่งกอดเข่าซ่อนใบหน้าไว้ราวกับว่าเป็นที่ซ่อนตัวอันปลอดภัย จากโลกภายนอก เด็กน้อยคนนั้นมีร่างกายซูบผอมคล้ายเด็กขาดสารอาหาร กระดูกตามข้อปูดโปนจนน่ากลัวว่ามันจะทะลุผิวหนังออกมา ผิวหนังคล้ำแห้งแตกเป็นขุย ส้นเท้าแตกเป็นริ้ว ๆ ผมหยาบกระด้างสีดำตัดสั้นแทบติดหนังศีรษะ และยังเว้า ๆ แหว่ง ๆ ที่ตรงเกือบกลางศีรษะมีรอยฝีเข็มเย็บแผล เป็นช่องโหว่ที่ไม่มีผมขึ้นแม้สักเส้น ภาพเด็กคนนั้นในวันเก่าไม่มีให้เห็นอีกแล้ว
จากอดีตที่สาหัสที่สุดในชีวิตของสวย เป็นเวลาที่เหมือนจะยาวนานและน่าจะลบเลือนสิ่งต่าง ๆ อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นจนหมดสิ้น แต่ในใจของสวยยังคงมีแผลที่เรามองไม่เห็น คล้ายกับบาดแผลบนศีรษะของเธอที่ยังคงเป็นแผลเป็น มีช่องโหว่ที่เส้นผมจะไม่งอกขึ้นมาอีกแล้ว เพียงแต่ผมในส่วนอื่นยาวขึ้นและได้ปกปิดแผลเป็นนั้นเอาไว้ แม้จะเจ็บปวดเมื่อนึกถึงแต่สวยก็เล่าถึงเหตุการณ์เหล่านั้นได้ด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าชีวิตจะผ่านช่วงเวลาดีหรือร้ายอย่างไรมา แต่ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป
และ ...ความรักความเมตตาเท่านั้นที่จะค้ำจุนโลกใบนี้ไว้...
........................................................................................................................................
หากผู้หญิงและเด็ก ท่านใดประสบปัญหาในชีวิต เช่น
ความรุนแรงในครอบครัว ท้องไม่พร้อม
ถูกข่มขืน หรือติดเชื้อ เอช ไอ วี สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่...
สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บ้านพักฉุกเฉิน
501/1 ซ.เดชะตุงคะ 1 ถ.เดชะตุงคะ
แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0 2929 2222 ตลอด 24 ชม.
ในกรณีที่ท่านต้องการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กในบ้านพักฉุกเฉินสามารถติดต่อได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และหาทุน โทร. 0 2929 2301-3 ต่อ 109,113 E-mail: admin@apsw-thailand.org เว็บไซต์สมาคม www.apsw-thailand.org เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/apswthailand.org
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น